วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2552

การปฏิบัติและดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์

การปฏิบัติตนและดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์
การปฏิบัติ มีข้อง่ายๆ ดังนี้

โภชนาการ ที่เหมาะสม ต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ปัจจุบันเราถือว่าคนท้องคนตั้งครรภ์ไม่ใช่คนป่วย ดังนั้นอาหารแสลงสำหรับหญิงตั้งครรภ์จึงไม่มี มีเพียงแต่ว่าอาหารบางอย่างต้องจำกัดลงบ้าง การรับประทานอาหารที่ถูกต้องเหมาะสมจะส่งผลถึงความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ อาหารที่เหมาะสมสำหรับคนตั้งครรภ์นั้น มีกฎเกณฑ์ที่ควรคำนึงคร่าวๆ คือคนตั้งครรภ์ต้องการอาหารเพิ่มอีกวันละ 300-500 กว่าแคลลอรี่ เช่นถ้ารับประทานมากกว่าปกติไปโดยเพิ่มข้าวขาหมูจานใหญ่อีก 1 จาน จะเท่ากับได้แคลอรี่เพิ่มเติมไปอีกประมาณ 400-500 แคลอรี่ ควรคำนึงว่า ไม่ว่าคุณแม่จะทานมากเท่าใดก็ตาม ทารกในครรภ์ก็จะหนัก โดยเฉลี่ย 3 กิโลกรัม ซึ่งในสภาวะการตั้งครรภ์ตามปกติ คุณแม่จะมีน้ำหนักขึ้นโดยประมาณ 10-12 กิโลกรัม ตลอดการตั้งครรภ์ แม้คุณแม่จะน้ำหนักเพิ่มอีก 20-30 กิโลกรัม ทารกในครรภ์ก็จะหนักโดยประมาณ 3 กิโลกรัมโดยเฉลี่ย ดังนั้นการทานอาหารที่พอเหมาะและมีอาหารครบทุกหมู่ โดยเน้นหนักที่อาหารจำพวกผักและโปรตีน รวมทั้งผลไม้ที่มีวิตามินซีมากๆ จะเป็นประโยชน์มากที่สุดต่อทารกในครรภ์และมารดา ส่วนเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน มีก๊าซอัดไว้และมีแอลกอฮอล์ รวมทั้งบุหรี่ ไม่เหมาะต่อการตั้งครรภ์และเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจมีผลต่อการตั้งครรภ์ได้

การพักผ่อนสำหรับสตรีตั้งครรภ์ การนอนหรือการพักผ่อนให้เพียงพอ จำเป็นสำหรับคนตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในไตรมาสแรก และไตรมาสที่สาม หญิงที่ตั้งครรภ์ จะเหนื่อยง่ายกว่าปกติ เนื่องจากทารกในครรภ์จะทำหน้าที่คล้ายกาฝากแฝงอยู่ อวัยวะแม่ต้องทำงานเพิ่มมากขึ้น การนอนและการพักผ่อนในตอนกลางวัน เป็นสิ่งควรปฏิบัติพร้อมกับการยกขาสูงขึ้นเพื่อให้โลหิตหมุนเวียนได้ดีขึ้น ปัจจุบันสภาพสังคม ทำให้สตรีต้องทำงานนอกบ้าน ประกอบธุรกิจ ข้อจำกัดของเวลามีอยู่มาก ทำให้การนอนและการพักผ่อนแบบเป็นกิจจะลักษณะทำได้ยาก แต่มีข้อแนะนำว่า เมื่อมีเวลาช่วงใดช่วงหนึ่ง ที่พอกระทำได้ เพียงแต่เอนกาย ยกขาสูง ช่วงสั้นๆ ก็เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ ข้อแนะนำที่จะช่วยให้มีเวลานอนพักผ่อนมากขึ้น คือพยายามลดงานประจำ เช่น ลดงานบ้านลง เข้านอนเร็วขึ้น 1-2 ชม. หรือการนอนหลับระหว่างเดินทาง เป็นต้น และในยามกลางคืน คนตั้งครรภ์ควรนอนตะแคงข้างด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับเส้นเลือดใหญ่ และให้ยกปลายเท้าสูงพอประมาณ ขนาดความหนาของหมอนหนุนศรีษะและควรกอดหมอนข้างไว้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น